ด้วยสมรรถนะรถยนต์ที่เหนือระดับ มาพร้อมกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม BMW จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่ผู้หลงใหลในโลกยนตรกรรมต่างใฝ่ฝันที่จะครอบครอง
ถึงจะน่าหลงใหลมากแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า BMW เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการดูแลทั้งระยะสั้นและยาวที่ค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้ ใครหลายคนจึงตัดสินใจที่จะเลือกซื้อ BMW มือสองแทน
แต่จะเลือกซื้อ BMW มือสองอย่างไรให้คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน ซื้อมาแล้วไม่มีเรื่องปวดหัวตามมา วันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการรับซื้อรถบีเอ็ม (BMW) มือสองมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากกัน
1. เช็ก BSI กับเลขไมล์ก่อน
ในปัจจุบันนี้ การซื้อ BMW คันใหม่ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับ BSI (BMW Service Inclusive) ซึ่งเป็นแพ็กเกจเซอร์วิสจากทางศูนย์ BMW ที่ครอบคลุมการเปลี่ยนอะไหล่ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตลอดจนการเข้าศูนย์เพื่อเช็กระยะและบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง BSI นี้ถือเป็นแพ็กเกจเอกซ์คลูซิฟสำหรับเจ้าของ BMW โดยเฉพาะ แต่จะไม่ใช่ประกันรถยนต์สำหรับ BMW
การคุ้มครองรถยนต์ BMW จะแตกต่างกันไปตามประเภท BSI ที่เลือกซื้อ หรือได้รับโปรโมชันจากศูนย์ เช่น BSI STANDARD จะครอบคลุมการดูแลรถยนต์แค่ 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร หรือ BSI ULTIMATE จะได้รับความคุ้มครองนานสูง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ดังนั้น หากใครกำลังพิจารณาเลือกซื้อ BMW มือสองอยู่ อย่าลืมตรวจสอบประเภทของ BSI ตลอดจนระยะความคุ้มครองที่ยังเหลือเอาไว้ให้ดี ซึ่งการมี BSI กับรถ BMW นี้ถือเป็นหนึ่งในข้อดีของ BMW มือสองเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญ ห้ามลืมเช็กเลขไมล์และร่องรอยการกรอไมล์ทั้งหมดด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการโดนโกง หรือได้รถยนต์เก่ามาหลอกขายในราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง
ข้อควรรู้ของ BSI: BSI สำหรับรถยนต์ BMW สามารถถูกยกเลิกในกรณีที่ลูกค้านำรถยนต์ไปปรับแต่งจากบุคคลภายนอก และในกรณีที่มีความเสียหายอย่างหนักและราคาประเมินการซ่อมสูงกว่าทุนประกันรถยนต์ ดังนั้น แม้จะมี BSI เหลืออยู่ แต่อย่าลืมตรวจสอบประวัติความเป็นมาทั้งหมดของรถยนต์ให้ดี ทั้งนี้เพื่อไม่เป็นการพลาดสิทธิพิเศษ และการคุ้มครองรถยนต์จากทาง BMW นั่นเอง |
2. ตรวจสอบตัวถังรถยนต์ให้ดี
หลังจากที่ตรวจสอบ BSI เพื่อดูประวัติของรถยนต์ ทั้งในเรื่องของการซ่อมบำรุงและการปรับแต่ง ตลอดจนเช็กถึงเลขไมล์ของ BMW แล้ว สิ่งต่อมาที่ทุกคนต้องตรวจสอบให้ดี คือ ตัวถังรถยนต์ BMW
เริ่มต้นจากการสังเกตสีรอยพ่นที่บริเวณขอบรถยนต์และขอบประตูก่อน พยายามมองหาสีที่มีการกระเทาะ หรือมีความแตกต่างจากสีในบริเวณอื่น ๆ จากนั้นจึงลองตรวจสอบความรู้สึกในการเปิด-ปิดประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นที่สามารถดูดประตูได้อัตโนมัติ
เมื่อตรวจสอบบริเวณผิวทั่วตัวรถยนต์เรียบร้อย ลำดับถัดมาที่อยากให้พิจารณาให้ดี คือ จุดน๊อตตัวยึดที่บริเวณต่าง ๆ รอบตัวรถยนต์ ทั้งจากหม้อน้ำและกันชนด้านหน้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตรวจสอบให้ชัวร์ว่า รถยนต์ BMW คันที่สนใจนี้ผ่านการซ่อมแซม หรือใช้งานมาอย่างไรบ้าง
3. ตรวจเช็กเครื่องยนต์ให้ละเอียด
ข้อดีของ BMW มือสอง นอกจากจะได้รับความคุ้มครองจากแพ็กเกจ BSI แล้ว หากตรวจสอบเครื่องยนต์ให้ละเอียดก่อนซื้อ ทุกคนเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่เหนือระดับจากการขับขี่รถยนต์ BMW ได้เช่นกัน หากยังไม่แน่ใจว่าจะตรวจเช็กเครื่องยนต์เบื้องต้นอย่างไร ลองมาเริ่มเช็กได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอน ดังนี้
1. ตรวจสอบของเหลวซึมบริเวณส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ เช่น รอยต่อ เครื่องยนต์ ท่อน้ำ ไปจนถึงท่อแอร์
2. เช็กการดัดแปลงระบบ ท่อ และสายไฟภายในเครื่อง ทำได้ด้วยการเทียบกับ BMW รุ่นเดียวกัน
3. เช็กความลื่นไหลในการเปลี่ยนเกียร์ กดเบรก ตลอดจนความสั่นของเครื่องยนต์ที่สัมผัสได้ในห้องโดยสาร
4. เช็กช่วงล่างก่อนตัดสินใจซื้อ
BMW เป็นรถยนต์ยุโรปที่มาพร้อมกับช่วงล่างที่แข็งแรง ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งในระหว่างการเลือกซื้อ BMW มือสอง อย่าลืมตรวจเช็กสภาพช่วงล่างของ BMW ร่วมด้วย
สำหรับใครที่ไม่มีความรู้ด้านช่วงล่างรถยนต์มาก่อน ขอแนะนำให้ลองสังเกตจังหวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการขับดู ไม่ว่าจะเป็นการสั่นสะเทือนของช่วงล่าง เสียงแปลก ๆ จากจังหวะเบรก การเร่งเคลื่อน ตลอดจนการเคลื่อนตัวไปตามถนนประเภทต่าง ๆ ที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบถึงลูกหมาก ตลอดจนความรู้สึกในจังหวะเลี้ยวของพวงมาลัย
5. อย่าลืมลองสตาร์ตรถยนต์และลองขับดู
เช่นเดียวกับการซื้อรถยนต์มือสองทุกคัน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ BMW มือสองทุกครั้ง สิ่งสำคัญที่ห้ามลืม คือ การสตาร์ตรถยนต์และลองนำออกไปขับดู ซึ่งการนำรถยนต์ออกไปวิ่งตามท้องถนนในระยะเวลาต่าง ๆ สามารถช่วยให้เห็นถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์และช่วงล่างได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังช่วยทำให้ใครหลายคนได้ทดสอบความชอบของตัวเอง ทำให้ได้เลือก BMW รุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุดด้วย
แม้สิ่งที่นำมาฝากจะมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาหลายด้าน แต่หากทำได้อย่างครบถ้วน การเลือกซื้อ BMW มือสองให้ตอบโจทย์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สำหรับเจ้าของรถยนต์ BMW คนไหนที่ต้องการส่งต่อ BMW คันเก่าให้แก่ผู้ที่สนใจ หรือใครกำลังตามหา BMW รุ่นที่ต้องการอยู่ Buycar24hr. พร้อมให้บริการรับซื้อรถบีเอ็มมือสองทุกรุ่น ให้ราคาสูง ซื้อง่าย ไม่ผ่านนายหน้า ไม่กดราคา รับเงินสดทันที 15 นาทีหลังตกลงซื้อขายเสร็จ รับซื้อทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมที่เบอร์ 091-492-2662