สำรวจประวัติรถเบนซ์ พร้อมอธิบายความต่างแต่ละรุ่น!

ถ้าถามว่ายี่ห้อรถยนต์ในฝันคือยี่ห้ออะไร? หนึ่งในคำตอบยอดนิยมของคนในสังคมย่อมต้องมี ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ค่ายรถยนต์จากประเทศเยอรมนีรวมอยู่ด้วยแน่นอน ด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหราเหนือกาลเวลา พร้อมด้วยดีไซน์สุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะพากันหลงใหลรถยนต์โลโก้ดาวสามแฉก และสำหรับคนที่หลงใหลในแบรนด์นี้อยู่แล้วเราจะทำให้คุณหลงรักรถยนต์แบรนด์นี้มากขึ้นไปอีก เพราะบทความนี้จะพาย้อนกลับไปสำรวจประวัติรถเบนซ์ พร้อมอธิบายความต่างของแต่ละรุ่น แต่ละคลาส ติดตามได้เลย

สำรวจประวัติรถเบนซ์ ความคลาสสิกเหนือกาลเวลา

สำหรับจุดเริ่มต้นของประวัติรถเบนซ์คงต้องย้อนกลับไปไกลถึงปลายศตวรรษที่ 19 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวบุรุษหนุ่ม 2 คนอย่าง Karl Benz และ Gottlieb Daimler เกิดวิสัยทัศน์ที่จะพลิกประวัติศาสตร์ยานยนต์ไปตลอดกาล

โดย Karl Benz มีชื่อเสียงจากการประดิษฐ์รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นคันแรกในปี ค.ศ. 1886 ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Benz Patent-Motorwagen ที่เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกของประวัติรถเบนซ์ที่จะโด่งดังไปทั่วโลกในอนาคต ในขณะที่ Gottlieb Daimler กำลังง่วนอยู่กับการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป ซึ่งเขาได้จดสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1886

การควบรวมกิจการของผู้บุกเบิกยานยนต์ทั้งสองเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1926 กลายเป็นบริษัทชื่อ Daimler-Benz AG ซึ่งได้รวมเอาความสามารถด้านวิศวกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผู้ก่อตั้งทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้ ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นอกจากนั้น ประวัติรถเบนซ์อีกหนึ่งแง่มุมที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ ความเป็นมาของโลโก้ ‘ดาว 3 แฉก’ อันเป็นเอกลักษณ์ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1900 โดยเกิดจากการแลกโปสการ์ดระหว่างลูกชายของ Gottlieb Daimler กับพ่อของเขา บนไปรษณียบัตร มีการวาดดาวสามแฉกไว้เหนือข้อความที่เขียนด้วยลายมือ โปสการ์ดดังกล่าวถูกค้นพบโดยเพื่อนร่วมงานของ Daimler หลังจากที่เขาเสียชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้มีการนำดาวสามแฉกมาใช้เป็นโลโก้ เนื่องจากสอดคล้องกับปณิธานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ต้องการเป็นเลิศด้านการขนส่ง ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล ซึ่งในปัจจุบันพวกเขาก็ทำสำเร็จได้จริง ๆ

รถเบนซ์แต่ละรุ่น ต่างกันอย่างไร?

เมื่อได้ทราบประวัติรถเบนซ์กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาไขอีกหนึ่งข้อสงสัยว่า รถเบนซ์แต่ละรุ่นแต่ละคลาส แตกต่างกันอย่างไร โดยสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

3 รุ่นยอดนิยม

Saloon: เป็นรุ่นที่โดดเด่นด้วยการออกแบบรถซีดานดั้งเดิม มีการตกแต่งภายในที่หรูหรา ไดนามิกในการขับขี่ที่นุ่มนวล และเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและความสวยงาม
Coupé: มีความสปอร์ตและรายละเอียดในการออกแบบที่ซับซ้อนขึ้น สะดุดตาด้วยความโฉบเฉี่ยวและมีสไตล์ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีไดนามิก เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และการควบคุมที่คล่องตัว
Crossover: ผสมผสานความอเนกประสงค์ของรถ SUV เข้ากับความสะดวกสบายและความหรูหรา โดยรถรุ่นนี้จะมีพื้นที่ภายในกว้างขวาง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการผจญภัยแบบออฟโรด

4 คลาสในแต่ละรุ่น

A-Class: คลาสที่เล็กกะทัดรัดที่สุดของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่ละรุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงและคุณสมบัติการเชื่อมต่อ
C-Class: ขยับขนาดและความอเนกประสงค์ในการใช้งานขึ้นมาอีกระดับ นอกจากนั้นยังมีการผสมผสานความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว รวมถึงเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นกว่า A Class เช่นกัน ด้วยการออกแบบที่หรูหรา การตกแต่งภายในที่ประณีต และตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากมาย
E-Class: สำหรับคลาสนี้คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา ห้องโดยสารกว้างขวาง เทคโนโลยีขั้นสูงในการขับขี่ พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
S-Class: เรือธงของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น เป็นจุดสุดยอดของความหรูหราและนวัตกรรมยานยนต์ พร้อมด้วยความสะดวกสบายในทุกมิติการขับขี่ที่เหนือระดับ

ขายรถเบนซ์ราคาดีต้องที่ BuyCar24hr

ด้วยประวัติรถเบนซ์ที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงความหรูหราคลาสสิกของแต่ละรุ่น จึงทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่เมื่อนำไปขายมือสอง ราคาจะค่อนข้างตกลงน้อยกว่าแบรนด์อื่น และสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งรับซื้อรถเบนซ์ราคาดี ต้องที่ Buycar24hr. เราคือแหล่งรับซื้อรถเบนซ์ทุกรุ่น ให้ราคาสูงเท่าที่คุณจะพอใจ ซื้อง่าย ไม่กดราคา จ่ายเงินไวใน 15 นาที ติดต่อเราได้ทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 091-492-2662 ตลอด 24 ชั่วโมง