โลโก้ (Logo) สัญลักษณ์อันทรงพลังที่แสดงถึงเอกลักษณ์ คุณค่า และมรดกของแบรนด์สินค้าทุกประเภท รวมถึงรถยนต์ ในโลกอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศในฝั่งยุโรป ก็ถือได้ว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง หลายแบรนด์ได้ยืนหยัดผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน ผ่านวิกฤตมานับไม่ถ้วนและพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อย่างไม่หยุดนิ่ง จนครองใจผู้ใช้รถมาได้ถึงทุกวันนี้

ด้วยเหตุนี้เอง โลโก้ของพวกเขาจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก บทความนี้จะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวและประวัติโลโก้รถยุโรป 5 แบรนด์ดังระดับโลกผ่านตราสัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จะมีแบรนด์ไหนบ้าง ติดตามได้เลย

Volkswagen

เริ่มต้นกันที่เจ้าของตำนานรถเต่าอันเลื่องลืออย่างแบรนด์ Volkswagen แบรนด์รถยนต์จากประเทศเยอรมนี ถือกำเนิดขึ้นในปี 1937 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นจากแนวคิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ที่ตั้งใจผลิตรถยนต์คุณภาพดีเพื่อชาวเยอรมัน โดยชื่อแบรนด์ Volkswagen เป็นภาษาเยอรมัน มาจากคำว่า Volks แปลว่าคน และคำว่า Wagen แปลว่ารถยนต์ รวมแล้วหมายถึงรถยนต์เพื่อประชาชน

สำหรับที่มาของโลโก้รถยุโรปแบรนด์นี้ ก็มาจากการนำตัวอักษร V และ W ที่อยู่ในชื่อแบรนด์มาซ้อนกัน ส่วนวงกลมที่ครอบอยู่ก็เป็นตัวแทนของคนที่กำลังนั่งอยู่ในรถ ถือเป็นการสื่อสารแนวคิดการผลิตรถยนต์เพื่อประชาชนออกมาได้อย่างชัดเจน ส่วนสีของโลโก้นั้น เป็นสีขาวที่สื่อถึงเสน่ห์และความบริสุทธิ์บนพื้นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนของความหรูหรา มีระดับ และน่าเชื่อถือ

ปัจจุบัน รถยนต์ของ Volkswagen ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานชาวไทยจำนวนมาก มีให้เลือกหลากหลายรุ่น เช่น รถยนต์ Compact 5 ประตูรุ่น Golf, รถสปอร์ตซีดานดีไซน์โฉบเฉี่ยว รุ่น Arteon และรถตู้สุดหรูหราที่ครองใจเหล่าผู้บริหารตลอดมาอย่าง Volkswagen Caravelle

BMW

รถยนต์ BMW ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมันที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีชื่อเต็มว่า Bavarian Motor Works ก่อตั้งขึ้นในปี 1916 เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบิน และหลังจากประเทศเยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 BMW ก็จำเป็นต้องผันตัวไปผลิตเครื่องมือทำฟาร์มและเบรกรถไฟแทน ก่อนจะเริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ และในที่สุดก็มีการเปิดตัวรถยนต์ BMW คันแรกในปี 1928

ประวัติโลโก้รถยุโรปแบรนด์ BMW นั้น เกิดขึ้นในปี 1917 สัญลักษณ์วงกลมเป็นตัวแทนของล้อรถและการขับเคลื่อน สีน้ำเงินและขาวตรงกลางเป็นสีของรัฐบาวาเรีย สถานที่ตั้งของบริษัท BMW แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างตามยุคสมัย แต่เอกลักษณ์สีน้ำเงินขาวก็ยังคงอยู่ตลอดมา เพื่อตอกย้ำที่มาของโลโก้รถยุโรปแบรนด์นี้ว่ามีจุดกำเนิดมาจากไหน ซึ่งตอนนี้ BMW ก็มีรถยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่น ทั้งรถยนต์ไฮบริด รถยนต์อเนกประสงค์ รถซีดาน และรถสปอร์ต

Ferrari

พูดถึงรถสปอร์ตระดับโลก ชื่อของ Ferrari คงเป็นชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง โดยที่มาของโลโก้รถยุโรปรูปม้าป่าสุดโดดเด่นของ Ferrari มาจากสัญลักษณ์บนเครื่องบินของ Francesco Baracca วีรบุรุษนักบินชาวอิตาลีในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งพ่อแม่ของ Francesco แนะนำให้ Enzo Ferrari ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ferrari นำมาใช้เพราะเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์นำโชค ส่วนพื้นหลังสีเหลืองนั้น เป็นสีของเมือง Modena บ้านเกิดของ Enzo และสีเขียว ขาว และแดง ก็เป็นสีธงชาติของประเทศอิตาลีนั่นเอง

Ferrari เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 โดย Enzo Ferrari นักแข่งรถชาวอิตาลี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสรถสปอร์ตและทีมแข่งรถชื่อดัง ตลอดเวลาที่ผ่านมา Ferrari พัฒนาเครื่องยนต์มาแล้วกว่า 160 แบบ จำหน่ายรถสปอร์ตรุ่นต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 60,000 คัน และมีรถสปอร์ตเป็นที่รู้จักกันดีหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น F355 Spider, 812 GTS, 250 GTO และรุ่นอื่น ๆ ซึ่งล้วนแต่สมรรถนะแรงถูกใจนักแข่ง สมฉายาม้าลำพองตัวจริง

ที่มาของโลโก้รถยุโรปที่คนรักรถห้ามพลาด

Mercedes-Benz

ที่มาของโลโก้รถยุโรปแบรนด์ถัดมา คือ Mercedes-Benz หรือรถเบนซ์ อีกหนึ่งแบรนด์รถสัญชาติเยอรมันที่ครองใจคนรักรถมากว่า 140 ปี ก่อตั้งโดย Carl Benz ในปี 1883 ก่อนจะสร้างความฮือฮาให้คนทั่วโลกในปี 1885 ด้วยการประดิษฐ์ Benz Patent-Motorwagen รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้คันแรกของโลกขึ้นมา แล้วในปี 1926 Benz ก็ได้รวมกิจการกับ Daimler Motoren- Gesellschaft (DMG) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Mercedes-Benz พัฒนานวัตกรรมยานยนต์เรื่อยมาจนกลายเป็น Mercedes-Benz C Class, G Class, S Class และอีกหลากหลายรุ่นที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน

แต่เดิมนั้นประวัติของโลโก้รถยุโรปแบรนด์นี้ เริ่มต้นจากโลโก้คำว่า Mercedes ในปี 1902 แล้วจึงกลายมาเป็นโลโก้ดาว 3 แฉกที่เราคุ้นกันในปี 1909 ซึ่งดาว 3 แฉกถูกออกแบบโดย Gottlieb Daimler ผู้ก่อตั้ง DMG แต่เสียชีวิตไปก่อนที่ Mercedes-Benz จะประสบความสำเร็จ มีความหมายถึงการขับเคลื่อนยานพาหนะทางอากาศ ทางบก และทางทะเล สะท้อนถึงความหรูหรา เรียบง่าย ทว่ายิ่งใหญ่ของ Mercedes-Benz ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Rolls-Royce

ปิดท้ายด้วยประวัติของโลโก้รถยุโรปที่แพงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกอย่าง Rolls-Royce แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ก่อตั้งโดย Charles Rolls และ Sir Henry Royce ในปี 1904 ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าว่าอยากสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก รถยนต์ Rolls-Royce รุ่นแรกเปิดตัวในปี 1907 ภายใต้ชื่อ Silver Ghost สร้างความประทับใจให้ผู้ใช้ด้วยเครื่องยนต์ที่หมุนได้นานที่สุดในขณะนั้น

ด้านที่มาของโลโก้รถยุโรปที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลกก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยโลโก้ของ Rolls-Royce ถูกออกแบบเป็นตัว R สองตัวซ้อนกัน ด้านบนเป็นคำว่า Rolls ด้านล่างเป็นคำว่า Royce และสัญลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ก็ต้องยกให้ The Spirit Of Ecstasy เทพีนำโชคที่ติดตั้งอยู่บนฝากระโปรงหน้ารถ ออกแบบโดย Charles Robinson Sykes มีความหมายว่าจิตวิญญาณแห่งความปีติยินดี ซึ่งอยู่คู่กับ Rolls-Royce มากว่าร้อยปีแล้ว

และนี่ก็คือประวัติและที่มาของโลโก้รถยุโรป 5 แบรนด์ชั้นนำที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ สำหรับเจ้าของรถยุโรปที่กำลังมองหาแหล่งขายรถยุโรปให้ได้ราคาดี ที่ Buycar24hr เราคือผู้รับซื้อรถเบนซ์มือสองที่ให้ราคาสูง ได้เงินไวภายใน 30 นาที รวมถึงรับซื้อรถยุโรปทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอนโดยทีมงานมืออาชีพ หมดห่วงเรื่องกดราคา สนใจขายรถยนต์ให้เรา สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อประเมินราคาได้ฟรีผ่านทางเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชม. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 091-492-2662 และ LINE Official @buycar24hr

ข้อมูลอ้างอิง: